หนักสุดรอบหลายสิบปี พายุถล่มจันทบุรี ทุเรียนล้มกว่า 80 ต้น โรงเรียนเละ ของกระจัดกระจาย โชคดีเป็นวันหยุด

Author:

หนักสุดรอบหลายสิบปี พายุถล่มจันทบุรี ทุเรียนล้มกว่า 80 ต้น โรงเรียนเละ โชคดีเป็นวันหยุด ป้ายโฆษณา หลังคาอาคารปลิวว่อน

วันที่ 28 ก.ค. 2567 นายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภอขลุง จ.จันทบุรี รับแจ้งเกิดภัยพิบัติ มีพายุลมพัดแรงในพื้นที่ จึงมอบหมายให้ทุกตำบลในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหาย เบื้องต้นได้รับรายงานว่า มีโรงเรียน วัด และสวนทุเรียนของชาวบ้าน ถูกพายุพัดได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นภัยพิบัติที่หนักสุดในรอบหลายสิบปี โดยเฉพาะโรงเรียนขลุงรัชดาถิเษก และสวนผลไม้พื้นที่ หมู่ 2 และหมู่ 4 ต.วันยาว อ.ขลุง

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่โรงเรียนขลุงรัชดาภิเษก พบต้นไม้หลายสิบต้นทั่วบริเวณโรงเรียน ล้มระเนระนาด ทับเสาไฟฟ้า, อาคารเรียน, บ้านพักครู ตลอดจนประตูรั้วและโรงจอดรถ กระเบื้องหลังคาโบสถ์ ปลิวว่อน กระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ และยังพบป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ถูกแรงลมพัดโค่นล้มลงมา โชคดีขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเย็น ไม่มีคนอยู่ ทำให้ไม่มีใครได้รับอันตราย

จากการดูภาพกล้องวงจรปิดภายในโรงเรียน เผยคลิปวินาทีเหตุการณ์ขณะเกิดพายุงวงช้างพัดกระหน่ำเข้าใส่ ส่งผลทำให้ต้นไม้อายุกว่า 30 ปี นับสิบต้น โค่นล้มระเนระนาด ทับอาคารเรียน เสาไฟฟ้าแรงสูง จนเกิดประกายและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว นอกจากนี้ยังพัดกระเบื้องหลังคาวัดที่อยู่ใกล้ปลิวว่อนหลุดหายไปทั้งแถบ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสวนผลไม้ พื้นที่หมู่ 2 และหมู่ 4 ต.วันยาว อ.ขลุง ซึ่งเป็นสวนทุเรียนของ นายสมชาย ยิ้มสกุล อายุ 56 ปี หลังได้รับรายงานว่า มีต้นทุเรียนถูกพายุหักโค่นล้ม ได้รับความเสียหายเกือบ 80 ต้น

สอบถามนายสมชาย เจ้าของทุเรียน เปิดเผยา ตนทำสวนทุเรียนบนเนื้อที่ 7 ไร่ ปลูกทุเรียนอายุตั้งแต่ 10-15 ปี ไว้จำนวนกว่า 100 ต้น โดยช่วงเย็นวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา มีฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน กระทั่งเวลา 18.30 น. มีพายุลมแรงพัดเข้ามาในสวนไม่ถึง 10 นาที ตอนนั้นทั้งตกใจทั้งกลัว แต่ทำอะไรไม่ได้

นายสมชาย กล่าวต่อว่า หลังพายุฝนสงบได้รีบเข้าไปตรวจสอบ พบต้นทุเรียนพันธุ์กระดุม และหมอนทอง ถูกพายุพัดโค่นล้มได้รับความเสียหาย ทั้งหมด 71 ต้น และยังมีต้นทุเรียนในสวนฝั่งตรงข้ามของเพื่อนบ้านถูกแรงลมหักโค่นอีกจำนวน 8 ต้น

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปในพื้นที่หมู่ 4 ต.วันยาว อ.ขลุง หลังรับแจ้งว่า มีต้นกระบกขนาดใหญ่ อายุกว่า 200 ปี ถูกพายุพัดหักโค่นอีก 1 ต้น จากการตรวจสอบ พบต้นกระบกดังกล่าว มีขนาดลำต้นไม่ต่ำกว่า 6-7 คนโอบ มีการตั้งศาลไว้ 4 หลัง

เจ้าของบอกว่า ต้นกระบกดังกล่าวถูกพบตั้งแต่สมัยรุ่นทวด ขณะเกิดเหตุมีแม่อยู่ที่บ้าน บอกว่าเกิดพายุลมพัดแรงอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน จนสามารถพัดต้นกระบกที่สูงใหญ่และแข็งแรงโค่นล้มลงได้ โชคดีที่ไม่มีใครในบ้านได้รับบาดเจ็บ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *