“ทักษิณ“ แย้ม ก.ย.คนเปราะบาง 14.5 ล้านคนได้เงินหมื่น บอกแม้เงินสดกระตุ้น ศก.ได้ แต่ไม่แม่นยำ ย้ำเดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาท ชี้ รบ.ใหม่มีหลายพรรคช่วยกันพัฒนาประเทศ
เมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 22 ส.ค.2567 ที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน งานดินเนอร์ทอล์ก หัวข้อ Vision For Thailand 2024 ของเนชั่นทีวี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่รู้ปัญหาตัวเองหมด แต่ไม่ยอมแก้ปัญหา ซึ่งเมื่อเรารู้ปัญหาแล้วต้องแก้ไขให้ได้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องเตรียมตัวไว้ว่า นายกรัฐมนตรีใหม่ต้องหาเจ้าภาพในแต่ละปัญหา
” ท่านบอกว่าถ้าไม่มีเจ้าภาพใครจะแก้ ดังนั้น ทุกปัญหาต้องมีเจ้าภาพ โดยเรื่องแรกคือการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจให้เดินต่อให้ได้ ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังคงต้องคุยกับสมาคมธนาคาร และบรรดานักซื้อหนี้ทั้งหลายว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ”
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า อีกเรื่องคือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เท่าที่ทราบคือเรื่องนี้มีคนค้านเยอะ เพราะบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่จริงๆแล้วดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการยิงนกสามตัวด้วยกระสุนนัดเดียว อันแรกคือกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้ระบบ บล็อกเช็น ให้กระตุ้นเศรษกิจได้แม่นยำชุ่มฉ่ำทั้งประเทศ แล้วคนไทยจะเข้าใจเทคโนโลยีและให้คนเข้าไปใช้ทุกบริการของภาครัฐ อีกนิดรัฐอาจออกบอนด์ขายประชาชนรายย่อย
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า นี่คือสิ่งที่เราหวังว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่ากระตุ้นเศรษกิจ แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้ทางคณะกรรมการฯ เล่าให้ฟังว่าเมื่อมีการตั้งงบปี 67 เพิ่มเติม 1.22 แสนกว่าล้าน บวกกับงบกลาง 2 หมื่นกว่าล้าน รวมเป็น 1.45 แสนล้าน ใช้ในกันยายน 2567 จะแจกจ่ายให้กลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และคนพิการ 1 ล้านคน รวม 14.5 ล้านคน จะให้คนละ 10,000 บาททันทีในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเบื้องต้นทันที
“และเมื่อเดือนตุลาคมมีงบประมาณใหม่ออกมา ก็จะคัดกรองคนที่ลงทะเบียนไว้ 30 ล้านคนว่าใครได้ไปแล้วบ้าง ใครเข้าเกณฑ์บ้าง แล้วจ่ายที่เหลือหากระบบเสร็จก็จะจ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการกระตุ้นเศรษกิจที่แม่นยำ เพราะการใช้เงินสดไม่แม่นยำ” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า การลงทุนภาครัฐจะต้องเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีของรัฐบาลนี้ และต่อด้วยชนะเลือกตั้ง ก็ทำต่อในรัฐบาลหน้า และสำคัญที่พูดไว้ คือการถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำ เพื่อที่จะได้พื้นที่ขยายความแออัดของกรุงเทพมหานคร ส่วนหนึ่งสามารถเป็นเมืองสีเขียว เป็นเมืองใหม่ให้เฉพาะรถไฟรถไฟฟ้าวิ่งเท่านั้น มีรถไฟเชื่อมและมีการป้องกันกรุงเทพฯ ไม่ให้น้ำท่วมได้ ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายคงต้องทำ เพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเราพูดไปแล้วเราต้องทำให้ได้
” ฉะนั้นเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทเราอาจจะต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารกลับมาเป็นของรัฐ แล้วจ้างเอกชนเป็นคนบริหาร และเราต้องกำหนดค่าตั๋ว ไม่เช่นนั้นเอกชนจะมุ่งเน้นเรื่องกำไรเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำและต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟรถไฟฟ้า ขณะที่เรื่องรถอีวีตอนช่วงผมอยู่ ผมสนับสนุนอีโคคาร์ เลยใช้ภาษีสรรพสามิตสนับสนุนอีโคคาร์ เมื่ออีวีจีนมา ตนอยากขอร้องว่าให้ไทยเป็นฐานผลิตพวงมาลัยขวา ไม่ว่าบีวายดี GWM อยากให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตพวงมาลัยขวาได้หรือไม่ เรื่องอีโคซิสเตมอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องรักษาไว้ ทำอย่างไรให้รถไฟฟ้าจากจีนมาใช้ส่วนประกอบในไทยบ้าง ต้องเริ่มเจรจาได้แล้ว ขอให้คนที่เกี่ยวข้องเจรจากัน ”
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนอยากขออย่างหนึ่ง ขอให้คนไทยรักกันเราคือคนไทยด้วยกัน ตนโดนเยอะที่สุด เห็นนรกและสวรรค์อยู่ในชาติเดียวกัน แต่ทุกวันนี้ทำไมทุกคนถึงบอกว่าตนเจอคนนั้น คบคนนี้ได้ ตนถือว่าอดีตก็คืออดีต ไม่ใช่ความจำเสื่อม เราจำได้หมดแต่อยากอยู่กับปัจจุบันและอนาคต อยากเห็นคนไทยเราอย่าไปมองว่าคนนั้นคนนี้ไม่ใช่พวกเรา เพราะเราคนไทยด้วยกัน เน้นความสามัคคี
” เพราะสิ่งที่พูดไปทั้งหมดถ้าขาดความสามัคคีก็ไม่สามารถทำได้ อยากให้เห็นว่าที่วันนี้รัฐบาลใหม่มีพรรคโน้นพรรคนี้มาร่วมกันเยอะแยะไปหมด เป็นสิ่งที่จะช่วยประเทศชาติพัฒนาได้ง่ายมากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ แก้กฎหมายที่ทำให้คนต้องลำบาก ต้องแก้ไขวันนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องรวมน้ำใจกันให้เป็นหนึ่งและแก้ปัญหา ถ้าใครบอกว่าผมโกรธคนนั้นคนนี้ ผมรู้สึกมากที่สุดแล้ว ซึ่งผมรักบ้านเมืองอยากเห็นบ้านเมืองดี และพร้อมอยู่ข้างหลังช่วยคิดให้ทางภาครัฐ และภาคเอกชน ใครต้องการที่จะปรึกษาตนก็ยอมเสียค่ากาแฟหน่อยแล้วตนจะแวะไปดื่มด้วย ” นายทักษิณ กล่าว