สท.หนุ่มเปิดใจ ฟาดเดือดปลัดติดแกลม สั่งซื้อเก้าอี้ตัวละหมื่น ลั่นใหญ่มาจากไหนก็ไม่กลัว ตกใจถูกบรรจุอยู่ในวาระประชุม สงสารประชาชนผู้เสียภาษี
จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อก yeam99999 สมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรงฟาดเดือดปลัดกลางที่ประชุมสภาฯ สั่งซื้อเก้าอี้ตัวละหมื่น สเปกแน่น จัดเต็ม เจ้าตัวบอกระดับซี 8 นั่งเก้าอี้ธรรมดาไม่ได้ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั้งโลกโซเชียล
ล่าสุดเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ส.ค.67 นายทศพล ธุสาวัน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการประชุมสภาเทศบาลตำบลสำโรง สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ตนรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากว่าการประชุมวิสามัญนั้นจะต้องเป็นเรื่องเร่งด่วนเกี่ยวกับประชาชน ปรากฏว่ามีแค่วาระที่ไม่เร่งด่วน หรือสำคัญอะไร
โดยแบ่งเป็นระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม (ไม่มี) ระเบียบวาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม 2.1 เรื่องรับรองรายงานการประชุมสภาเทศบาลตำบลสำโรง สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1/2567 วันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.67 ระเบียบวาระที่ 3 กระทู้ถาม (ไม่มี) ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องที่คณะกรรมการที่สภาท้องถิ่นตั้งขึ้นพิจารณาเสร็จแล้ว ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องที่เสนอใหม่ / เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ 5.1 เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบ (1) ญัตติ เรื่อง การจัดทำร่างระเบียบสภาเทศบาลตำบลสำโรง ว่าด้วยการดำเนินการของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. ….
(2) ญัตติ เรื่องการโอนงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 สำนักปลัดเทศบาล รายการที่ 1 โอนเพิ่ม งบประมาณไม่ได้ตั้งจ่ายไว้ (โอนตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่) (1)โอนเพิ่ม แผนงานบริหารงานทั่วไป หมวดค่าครุภัณฑ์ ประเภท ครุภัณฑ์สำนักงาน รายการ จัดซื้อเก้าอี้ทำงานให้ผู้บริหาร 1 ตัว งบประมาณ 10,000.-บาท /โอนลด แผนงานบริหารงานทั่วไป งานบริหารทั่วไป หมวดค่าใช้สอย ประเภท รายจ่ายเกี่ยวกับการรับรองและพิธีการ รายการ เพื่อจ่ายเป็นค่าอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ เครื่องใช้ ในการเลี้ยงรับรอง และค่าบริการอื่นๆ ซึ่งจำเป็นต้องจ่ายที่เกี่ยวกับการเลี้ยงรับรองในการประชุมสภาท้องถิ่น หรือคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายหรือระเบียบหรือ หนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย หรือการประชุม ระหว่าง อปท. หรือ อปท.กับรัฐสาหกิจหรือเอกชน รวมถึงผู้เข้าร่วมประชุมอื่น ๆ และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งไว้ 24,000.-บาท งบประมาณก่อนโอน 24,000.-บาท โอนลดครั้ง 10,000.-บาท งบประมาณคงเหลือ 14,000.-บาท
สาเหตุที่ตนยอมไม่ได้ เนื่องจากนึกถึงประชาชนที่ต้องเสียภาษี ต้องเหนื่อยลำบากจากการทำงานเสียภาษี แต่เงินที่ประชาชนจ่ายภาษีไปนั้น ยังลงไปไม่ถึงระดับชุมชนด้วยซ้ำ แทนที่จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชน เรื่องที่ควรแก้ไข เช่นเรื่องถนน ความเดือดร้อนของประชาชนจากน้ำท่วม ตนยังไม่เห็นวาระเหล่านี้เข้าที่ประชุมฯ เพื่อหาทางแก้ไข หรือช่วยเหลือประชาชน แต่กลับนำวาระการซื้อเก้าอี้ตัวละ 10,000 บาท
ทั้งนี้ทางปลัดยังตอบกลับมาอีกว่า ซื้อจริง 3-4 พันบาท ตนจึงนึกย้อนไปสมัยที่มีการจัดซื้อกล้องวงจรปิดที่มีการเสนองบประมาณการจัดซื้อต่อสภาฯ 100,000 บาท และปลัดก็บอกว่า “ซื้อจริงๆ ไม่ถึง 100,000 บาทหรอก” และปรากฏว่าใช้งบประมาณซื้อกล้องวงจรปิดไปประมาณ 9 หมื่นบาท ซึ่งต้องเหลือส่วนต่าง ตนพยายามขอดูเอกสารการจัดซื้อ แต่เขาก็ไม่ให้ดู ตนจึงกังวลว่าการจัดซื้อในครั้งนี้จะเป็นเหมือนครั้งก่อน ตนยอมไม่ได้ จะต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเอาไว้
สำหรับคุณลักษณะของเก้าอี้ตัวนี้ มีขนาดกว้าง 67 ลึก 72 สูง 119-126 (+- 0.5 ซม.) โครงสร้างของที่นั่งและพนักพิงกรุด้วยไม้อัด บุด้วยฟองน้ำหุ้มด้วยหนังเทียม แขนเก้าอี้ทำจากไม้ทาสีเคลือบเงา ขาเก้าอี้ทำจากไม้ทาสีเคลือบเงา การปรับสูงต่ำของเก้าอี้ใช้ระบบไฮดรอลิก ขาเก้าอี้แบบ 5 แฉก โครงสร้างเหล็กหุ้มด้วยไม้ ลูกล้อ ผลิตจากพลาสติก ABS เพื่อความหนา
อีกทั้งปลัดยังบอกอีกด้วยว่า เขาเป็นข้าราชการระดับ C8 จะมานั่งเก้าอี้ธรรมดาไม่ได้ มันไม่สมฐานะ ตนจึงมองว่าเก้าอี้ธรรมดา หรือสาดก็นั่งได้ ทำไมต้องนำภาษีประชาชนมาใช้กับเรื่องแบบนี้ ทางปลัดจึงสวนกลับว่า “งั้นรอบหน้าเดี๋ยวจะเอาเก้าอี้พลาติกมาให้ท่าน ส.ท.นั่ง”
ตลอด 3 ปีที่ตนรับราชการ ปฏิบัติหน้าที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรง ตนเฝ้ารออยากให้มีโครงการที่สามารถที่จะช่วยเหลือ หรือ บรรเทาทุกข์ให้ประชาชนได้จริง ส่วนมากในที่ประชุมสภาฯ จะเป็นเรื่องการขอจัดซื้อ คอมพิวเตอร์ ซื้อตู้เก็บของ ตนมองว่าบางเรื่องควรเห็นแก่ประชาชน อะไรเสียสละได้ก็ควรทำ ประชาชนบางคนหาเช้ากินค่ำ ต้องหาเลี้ยงหลายปากท้อง ตนจึงนำเรื่องเหล่านี้มาเป็นพลังในการทำงาน และไม่ได้คิดว่าจะมามีปัญหาหรือขัดแย้งกับใคร
ตนยังจำคำปฏิญาณตั้งแต่วันแรกได้ขึ้นใจ ใจความสำคัญคือ “ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่” แค่นี้ที่จะทำองค์กรเจริญ บ้านเมืองหน้าอยู่กว่านี้ แต่ตนไม่แน่ใจว่าข้าราชการระดับสูงหลายท่านอาจจะลืมคำปฏิญาณไปแล้วหรือไม่ อยากให้ท่าคิดเยอะๆ เงินทุกบาททุกสตางค์ควรลงไปถึงชุมชน
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีใครโทรมาสั่งห้ามตน หรือมากลั่นแกล้งตนแต่อย่างใด มีแต่ประชาชนมาคอยให้กำลังใจและให้ตนสู้ ขอบคุณทุกความเป็นห่วง และตนไม่กลัวว่าหลังจากนี้ถูกกลั่นแกล้ง เพราะเชื่อและยึดมั่นในความดี ความดีจะปกปักรักษา และทำให้เราเจริญขึ้น ตนไม่เคยเชื่อเลยว่า คนทำดีแล้วจะไม่ได้ดี มีแต่คนดีต้องได้ดี
ตนทำดีมาเรื่อยๆ และรอเวลานี้มานาน วันที่ตนจะได้พูดสิ่งที่ตนคิดและเชื่อออกไปว่าอย่าไปกลัว สังคมเรามีคนดีๆ อีกเยอะ ผลประโยชน์ของประชาชนต้องมาก่อน ตนไม่เคยเชื่อเลยว่าความเห็นแก่ตัว การโกงกิน จะทำให้อยู่รอดปลอดภัย จะใหญ่มาจากไหนตนก็ไม่กลัว และตนอยากเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนว่าให้ทำความดี และลุกขึ้นสู้ อย่ากลัวกับอำนาจอิทธิพลต่างๆ
“ชีวิตนี้ถ้าหนูจะตายก็ตายไปเถอะค่ะ เพราะได้ทำเพื่อแผ่นดิน เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน เพียงแค่นี้หนูพอใจแล้วค่ะ” นายทศพล กล่าวทิ้งท้าย